หน้าแรก     บทความ     Website     เจาะลึกวิธีการใช้งาน Woocommerce อัพเดท 2020 เวอร์ชั่นมือใหม่เข้าใจง่าย

เจาะลึกวิธีการใช้งาน Woocommerce อัพเดท 2020 เวอร์ชั่นมือใหม่เข้าใจง่าย
Website

เจาะลึกวิธีการใช้งาน Woocommerce อัพเดท 2020 เวอร์ชั่นมือใหม่เข้าใจง่าย

4 ปี ที่แล้ว

หลาย ๆ คนที่ทำเว็บไซต์ธุรกิจด้วย WordPress และเริ่มต้นการทำธุรกิจขายสินค้าออนไลน์ การใช้ Plugin Woocommerce ถือว่าค่อนข้างตอบโจทย์เลยทีเดียวครับ แต่ Plugin นี้ก็มีรายละเอียดที่ค่อนข้างมากครับ ทำให้มือใหม่หลาย ๆ คนอาจจะสบสนได้ หรือไม่รู้จะเริ่มต้นจากส่วนไหนก่อนดี ดังนั้นครับผมจะอธิบายการใช้งานพื้นฐานการใช้งาน Woocommerce อัพเดต 2020 แน่นอนว่าใครที่เป็นมือใหม่ต้องห้ามพลาดนะครับ


สารบัญน่ารู้

Woocommerce คืออะไร 

เป็นปลั๊กอินที่ช่วยทำให้ WordPress ปกติ เป็นเว็บไซต์ที่เหมาะสมสำหรับการทำร้านค้าออนไลน์แบบเต็มรูปแบบ สามารถโหลดตัวปลั๊กอินนี้มาใช้ฟรี ๆ ได้เลยนะครับ และในปัจจุบันจากสถิติเว็บร้านค้าออนไลน์ของทั้งโลก 47% คือเว็บที่สร้างมาจาก Woocommerce โดยใน Woocommerce จะมีฟีเจอร์สนับสนุนการทำงานในการขายสินค้าออนไลน์ที่ครบถ้วน อันได้แก่ ระบบสินค้า การขาย สต็อกสินค้า   โปรโมชั่น การจ่ายเงิน และรายงาน เป็นต้น

จุดเด่นของ Woocommerce 


  • ไม่เสียค่าใช้จ่าย 
  • มีการพัฒนาสม่ำเสมอ
  • ใช่งานง่าย
  • มีฟีดเจอร์มากมาย
  • มีระบบจัดการสมาชิก
  • ระบบ add to cart
  • ทำคูปองส่วนลดได้
  • ระบบ Stock สินค้า
  • ระบบจัดการ ORDER
  • ระบบส่งข้อความหาลูกค้า
  • ติดตามสถานะการสั่งซื้อ
  • มี Gallery สำหรับสินค้า
  • ระบบคำนวณภาษี
  • รองรับการจ่ายเงินหลายประเภท
  • ขายสินค้าที่มีตัวเลือกได้
  • ระบบรายงานสรุปผล
  • ระบบคิดค่าขนส่ง

เป็นอย่างไรบ้างครับ น่าใช้ใช่ไหม เรียกได้ว่าตอบโจทย์พ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ได้อย่างดีเยี่ยมเลย แต่ถึงอย่างงั้นก็ยังมีข้อจำกัดอยู่นะครับ อย่างที่อธิบายไปเบื้องต้นว่า Woocommerce เหมาะสำหรับร้านค้าปกติ นั่นแปลว่าถ้าใครอยากให้ร้านค้าของตนเองเพิ่มความพิเศษขึ้น อาจจะต้องติดตั้ง Plugin ตัวอื่นเพิ่มเติมเข้าไป ซึ่งบาง Plugin มีทั้งแบบฟรีและเสียค่าใช้จ่ายครับ เช่น 


  • ไม่มีระบบพิมพ์ใบสั่งซื้อ
  • ระบบ Shipping อาจจะยากไปสำหรับมือใหม่
  • กรณีสินค้าต้องเลือกแบบมีเงื่อนไข  Woocommerce ฟรีทำไม่ได้

สิ่งที่ควรรู้ก่อนเริ่มต้นใช้งาน Woocommerce


1. WordPress และ Woocommerce มีการอัพเดทตลอด

หลังจากที่สร้าง WordPress และ Woocommerce เสร็จเรียบร้อยแล้ว ผมแนะนำให้คอยอัพเดทเว็บไซต์อยู่เสมอนะครับ เพื่อให้เว็บไซต์ยังคงใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ และลดความเสี่ยงของการถูกแฮคเว็บไซต์ด้วย


2. Hosting บางตัวอาจไม่เหมาะกับ Woocommerce

ปัญหา Hosting ส่วนใหญ่ คือ มีปริมาณผู้ใช้บริการจำนวนมาก ทำให้บางครั้ง Hosting จะต้องจำกัดการใช้งานของลูกค้าในระดับ Share Host ครับ ซึ่งโดยทั่วไปมือใหม่เกือบ 90% จะทำเว็บไซต์ด้วยการใช้ Hosting ในระดับ Share Host ที่มีราคาไม่สูงมาก ก็จะทำให้มีโอกาสโดนจำกัดได้ เช่น ลง WordPress เองไม่ได้ , อัพเดท WordPress ไม่ได้ , จำกัดพวกหน่วยความจำในส่วนของ PHP ครับ


ทำให้บางครั้งการลง Demo ธีมใหญ่ๆ ไม่ได้ หรือลงบางปลั๊กอิน ไม่ได้เช่นกัน ต้องคอยติดต่อ Support ของ Hosting ให้ช่วยแก้ไข ดังนั้นนะครับ ผมแนะนำวิธีแก้ปัญหาง่าย ๆ ให้ก็คือ เลือกใช้ Hosting ที่มีแพคเกจ WordPress Hosting ครับ หมดปัญหาแน่นอน 


3. ทำเว็บไซต์ขนาดไหนถึงจะเหมาะกับ Woocommerce 

ประเภทของเว็บร้านค้า แบ่งได้ 2 ประเภท คือ 

  • เว็บไซต์ร้านค้ารายเดียว ที่ขายสินค้าต่าง ๆ
  • เว็บร้านค้าที่เป็นตลาดกลาง (Market place) ที่เปิดให้ร้านค้าหลายราย มาวางขายสินค้า เช่น Lazada , Amazon , Kaidee , Shopee เป็นต้น 


 ซึ่ง Woocommerce สร้างเว็บไซต์ได้ทั้ง 2 ประเภทเลยครับ แต่ในการใช้งานที่เหมาะสมกับ Woocommerce จริง ๆ คือแบบร้านค้าเดี่ยว เพราะมีโครงสร้างที่เหมาะสำหรับการทำเว็บไซต์มากกว่าครับ เพราะเว็บไซต์ประเภทที่เป็น Market Place มีความซับซ้อนของระบบมากกว่าหลายเท่า เพราะผู้ขายมีสิทธิเอาสินค้ามาวางขาย และแก้ไขรายละเอียดของตัวเอง , เช็คยอดเงิน , การส่งของต่าง ๆ ครับ

เลือกธีมอย่างไร ให้เหมาะกับ Woocommerce

Woocommerce มักจะมีการออกเวอร์ชั่นใหม่ หรืออัพเดตระบบต่าง ๆ สม่ำเสมอ ทำให้อาจมีเปลี่ยนแปลงรูปแบบการตั้งค่าไม่มากก็น้อยครับ ดังนั้นธีมที่ดีต้องมีการอัพเดทให้ใช้งานร่วมกับ Woocommerce ได้ครับ 


  • ควรใช้ธีมที่พรีเมี่ยม หรือธีมเสียเงินครับ เพราะธีมฟรีจะมีข้อจำกัดค่อนข้างเยอะ และไม่มีความยืดหยุ่น จะเหมือนเป็นเว็บไซต์แบบสำเร็จรูป ปรับแต่งตามใจลำบาก แต่หากเลือกใช้ธีมที่เสียเงิน การใช้งาน จะยืดหยุ่น สามารถเลือกปรับทุกอย่างได้อย่างอิสระและตรงตามความต้องการมากกว่าครับ ซึ่งราคาก็มีหลากหลายตามความต้องการ 

นอกจากนี้บางธีมยังช่วยด้าน การทำ SEO ด้วยนะครับ


  • มีการอัพเดทอยู่เสมอ ควรมีการอัพเดทให้ทันกับการใช้งานบน WordPress เวอร์ชั่นล่าสุดอยู่เสมอครับ 


  • อัพเดทตาม Woo เวอร์ชั่นล่าสุด (ver.3+)


  • มียอดขายพอสมควร ควรเลือกธีมที่มียอดขายดี เพราะธีมไหนที่ไม่ค่อยมียอดขาย ผู้สร้างธีมมักหยุดพัฒนาธีม หรืออัพเดทธีมในรองรับ WordPress และ Woocommerce เวอร์ชั่นใหม่ ๆ หากไปเลือกใช้ธีมนั้นๆ ต่อไป ก็มีความเสี่ยงสูงว่าเว็บไซต์จะใช้งานไม่ได้เมื่อมีการอัพเดทนั้นเองครับ


  • มีคลิปสอนการ Setup ธีม บน YouTube ถึงแม้ว่าจะไม่ต้องเขียนโค้ดยาก ๆ แต่ทุกธีมก็มีวิธีการใช้ของธีมนั้น ๆ ดังนั้นควรเลือกธีมที่มีคลิปสอน ก็จะช่วยให้เราเรียนรู้การทำเว็บได้เร็วขึ้นนั้นเอง


  • มี Facebook Group ช่วย ถาม-ตอบ ในบางธีม จะมีการสร้าง Facebook Group เพื่อคอย Support คนที่ใช้ธีมเดียวกัน ติดขัดตรงไหนเราก็สามารถไปตั้งกระทู้ถามได้เลยครับ


แหล่งซื้อธีมคุณภาพ themeforest.net

สอน Woocommerce Step by Step 


ตั้งค่าทั่วไป (General options) ในหน้า General options ค่าพื้นฐานที่ควรกำหนดมีดังนี้ครับ

  • Base location ที่ตั้งร้านค้าของเราอยู่ที่ใด
  • Selling location(s) เปิดขายของให้กับประเทศใดบ้าง 
  • Shipping location(s) จะเลือกจัดส่งให้กับประเทศใดบ้าง 
  • Currency เลือกเป็น Thai baht
  • Currency position แนะนำว่าให้เลือกเป็น Right with space
  • Number of decimals คือจุดทศนิยม ให้เราใส่เป็น 0 ไปก็ได้ครับ


ตั้งค่า Products

Products > General หากเป็นร้านค้าหน้าใหม่ ผมแนะนำให้ปิดฟังชั่นนี้ไปก่อนดีกว่า เพื่อป้องกันคนมาคอมเมนต์ หรือรีวิวสินค้าของเราในแง่ลบครับ ก็คือไม่ต้องติ๊กช่อง Enable Ratings ครับ



ตั้งค่า Products Display Option

คือ การแสดงรูปภาพของสินค้าที่เราต้องการโชว์ที่เว็บของเราว่าอยากให้แสดงไซต์ขนาดไหน สินค้าไหนเรียงก่อน เรียงหลัง ดูภาพด้านบนนะ 

  • ให้คลิกที่คำว่า Go See Them In Action Here 
  • จะเข้าสู่หน้า Woocommerce Customizing
  • คลิก Product Catalog ตรงตำแหน่ง Default Product Sorting 
  • ให้เราเลือกเป็น Sort By Most Recent
  • ถอยกลับเพื่อเข้าสู่หน้า Woocommerce Customizing ต่อมาให้คลิก Product Images
  • หากเราต้องการรูปแสดงสินค้าเป็น รูปสีเหลี่ยมจตุรัส ขนาดไซต์รูปที่ผมแนะนำ คือ 800 x 800 pixel ให้ออกแบบรูปเตรียมไว้ให้เรียบร้อย และในส่วนของการตั้งค่า Product Images ให้เราเลือกตรง Thumbnail Cropping เป็น 1:1
  • หากเราต้องการรูปแสดงสินค้าเป็น รูปสีเหลี่ยมผืนผ้า ขนาดไซต์รูปที่ผมแนะนำ คือ 613 x 800 pixel ให้ออกแบบรูปเตรียมไว้ให้เรียบร้อย และในส่วนของการตั้งค่า Product Images ให้เราเลือกตรง Thumbnail cropping ให้ที่ Custom > เป็นเลือกอัตราส่วนเป็น 3:4

การมีพื้นฐานเป็นสิ่งสำคัญนะครับ การใช้งาน Woocommerce อัพเดต 2020 ที่ผมอธิบายนี้ก็ถือว่าเป็นการปูพื้นฐานที่ช่วยให้เจ้าของธุรกิจมือใหม่ได้พอที่จะเข้าใจและมองเห็นภาพรวมของการสร้างเว็บไซต์ Wordpress ที่เป็นซัพพอร์ตการขายสินค้าออนไลน์ครับ 

ดังนั้น ก่อนจะเริ่มต้นลงมือทำ ลองวางแผนภาพรวมของเว็บไซต์ก่อน แล้วค่อย ๆ ศึกษาข้อมูลการเลือกใช้ธีม การเลือก Hosting การตั้งค่า ให้เรียบร้อยก่อนนะครับ ไม่อย่างนั้นก็อาจจะทำให้ไม่สามารถใช้ฟีดเจอร์ของการสร้างเว็บไซต์ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพครับ แล้วอย่าลืมอัพเดตเว็บไซต์สม่ำเสมอให้ทันปี 2020 ครับ

Copyright © 2025 NB Digital Team.
All Rights Reserved.