หลายคนคงรู้จัก SEO (Search Engine Optimization) กันอยู่แล้วใช่ไหมครับ แล้วทราบหรือไม่ครับว่า SEO นั้น ถูกแบ่งแยกออกเป็น 2 ส่วนหลัก ๆ คือ SEO On Page กับ SEO Off Page ครับ ซึ่งทั้ง 2 แบบนี้ คือ การปรับแต่ง SEO ให้ถูกหลักโครงสร้าง ทั้งปัจจัยภายใน (On Page) และภายนอก (Off Page) นั่นเองครับ
ซึ่งทั้ง 2 แบบนี้ คือ การปรับแต่ง SEO ให้ถูกหลักโครงสร้าง ทั้งปัจจัยภายใน (On Page) และภายนอก (Off Page) นั่นเองครับ
SEO On Page คือ
SEO Off Page คือ
Off-page SEO หรือการได้ Backlink จากเว็บไซต์ที่มีคุณภาพนั้นเป็นสิ่งสำคัญที่ Google และ Search Engine ตัวอื่น ๆ เพราะแสดงออกถึงคุณภาพ ความน่าเชื่อถือ และชื่อเสียงเว็บไซต์ครับ และส่งผลต่ออันดับบน Google และช่วยให้เว็บไซต์ของเราถูก Search ได้ง่ายขึ้นครับ
เช่น ถ้าเว็บด้านการตลาดชื่อดังของประเทศไทยอย่าง Thumbsup หรือ Marketing Oops ส่ง Backlink กลับเข้ามาหา Content Shifu เพราะเห็นว่า nbdigital มีเนื้อหาเกี่ยวกับการตลาดที่น่าสนใจ Google ก็จะคิดว่า nbdigital เป็นเว็บไซต์ที่มีคุณภาพในสายการตลาดครับ
Backlink แบ่งออกเป็น 2 ประเภทครับ คือ
คือ การที่เว็บไซต์นั้น ๆ ส่ง Backlink หาเว็บไซต์ของเราครับ โดยที่จะส่งต่อประโยชน์จาก SEO มาให้เราด้วยนั่นเอง ข้อดี คือ ถ้าเนื้อหาเว็บไซต์เหล่านั้นได้รับการการันตีคุณภาพ ก็จะส่งผลให้เนื้อหาบนเว็บไซต์ของเรามีคุณภาพดีขึ้นด้วยนะครับ
คือ การที่เว็บไซต์ต่าง ๆ ส่ง Backlink หาเว็บไซต์ของเราครับ แต่เว็บไซต์นั้นก็ไม่ได้ส่งต่อคุณภาพ SEO มาให้ด้วย โดยปกติแล้วลิงก์ที่เป็น No Follow มักจะะเป็น Link ในส่วนของคอมเมนต์ หรือ ลิงก์จากเว็บไซต์ Social Media ต่าง ๆ
แต่ถึงแม้ว่า Backlink แบบ No Follow จะไม่ได้ส่งผลต่อ SEO โดยตรง แต่ก็มีประโยชน์ทางอ้อมเหมือนกันนะครับ เช่น จะช่วยทำให้ผู้ใช้งานเห็นคอนเทนต์ของเราากขึ้น จนอาจจะนำไปสู่ Backlink ที่เป็น Do Follow ได้เลยครับ
การสร้างคอนเทนต์ที่ดี ควรมีประโยชน์กับกลุ่มเป้าหมาย ซึ่งคอนเทนต์ที่ดี ไม่จำเป็นต้องตอบโจทย์ทุกกลุ่มเป้าหมายนะครับ แต่ต้องสามารถแก้ไขปัญหาในสิ่งที่กลุ่มเป้าหมายนั้นต้องการครับ โดยคอนเทนต์จะอยู่ในรูปแบบไหนก็ได้ ไม่ว่าจะเป็นบทความ วีดีโอ อินโฟกราฟิก และอื่นๆ แต่ต้องให้กลุ่มเป้าหมายสามารถเข้าถึงได้ครับ ซึ่งถ้ารากฐานคอนเทนท์น่าสนใจแล้ว การจะต่อยอดก็ไม่ใช่เรื่องยากเลย
On-page SEO เป็นสิ่งที่ควรทำตั้งแต่ตอนสร้างเว็บไซต์ครับ และควรจะทำเพิ่มเติมทุกครั้งก่อนที่จะเขียนบทความ ก่อนทำ Sitemap บนเว็บไซต์ นอกจากนี้ควรทำ
เพียงเท่านี้ก็รับรองว่า Google จะหาจัดอันดับเว็บไซต์ของเราดีขึ้นอย่างแน่นอน และสิ่งที่ต้องทำต่อไปก็คือการทำให้ Google รู้ว่าคอนเทนต์ และเว็บไซต์มีคุณภาพผ่านการทำ Off-page SEO มาแล้วครับ
Infograpgic เป็นคอนเทนต์รูปแบบที่จะสร้าง Backlink ได้ดีกว่าแบบอื่นครับ เพราะว่าการดูข้อมูลเป็นอินโฟกราฟิก ย่อยงาน และเข้าใจได้ง่ายกว่าการอ่านตัวหนังสือเป็นพารากราฟ แต่ถึงแม้ว่ากระแสวีดีโอกำลังมาแรง แต่การทำ Off-page SEO บนวีดีโอนั้น ไม่ได้ทำกันง่ายๆ เลย สาเหตุก็เพราะวีดีโอใช้เวลา และใช้เงินในการทำค่อนข้างสูง และวีดีโอจะไม่ถูกเก็บไว้บนเซอร์เวอร์ของเราเอง เพราะมันหนักและกินที่มาก แต่มักจะถูกอัพโหลดลงบน YouTube หรือ Vimeo แทนครับ
เทคนิคสร้างอินโฟกราฟิกที่ดีต่อการ Backlink กลับมา ก็คือ ออกแบบให้สวยงาม เข้าถึงง่าย มี Keyword ในเนื้อหา และใส่คำกระตุ้นให้ผู้เข้าสนได้นำไปแชร์ต่อ เช่น Share this Image On Your Site รับรองว่าเดี๋ยวมันจะกลับมาส่งผลดีต่อ Off-page SEO แน่ครับ
Backlink ที่ได้กลับมาจาก Social Media จะเป็น No Follow Backlink ครับ แต่ถ้า Social Signal เช่น จำนวน Like, Comment, Share และ Click มีจำนวนมากพอ ทาง Google ก็มองว่าเว็บไซต์ของเรามีคุณภาพครับ ก็จะส่งผลต่อไปในการจัดอันดับ Off-page SEO ด้วยเช่นกัน
เทคนิคหนึ่งที่ใช้แบ่งสัดส่วนคอนเทนท์ในสื่อออนไลน์ Social Media ที่ช่วยให้กลุ่มเป้าหมายรับรู้คอนเทนท์ของเรามากขึ้น ก็คือสูตร 70 / 20 / 10
และสำหรับประเทศไทย Social Media ที่มีคนเล่นมากที่สุดน่าจะเป็น Facebook, LINE และ Instagram ซึ่งผมแนะนำว่าไม่จำเป็นต้องใช้ทั้ง 3 ตัว แต่ควรจะเลือกใช้เฉพาะตัวที่เหมาะสมกับธุรกิจนะครับ
ถึงแม้ว่า Facebook จะปรับยอด Reach จากเพจต่างๆ ให้น้อยลง แต่ Reach ที่มาจาก Group บน Facebook นั้นกลับยังมีค่าที่สูงอยู่มาก สาเหตุก็มาจากเพราะ Facebook ให้ความสำคัญกับ Community มากกว่า Page ครับ
เพราะฉะนั้นสิ่งที่ผมแนะนำให้ใช้ Community ที่มีคนสร้างมาอยู่แล้วให้เป็นประโยชน์ดีกว่า ถ้าคอนเทนต์ของเราดี เอาไปปล่อยให้ตรง Group บางทีอาจจะได้ผลมากกว่าการโปรโมตใน Page ของคุณก็เป็นได้ครับ
บาง Group จะเป็น Public Group และบาง Group จะเป็น Closed Group ก่อนที่จะเข้าร่วมแต่ละกรุ๊ป ผมแนะนำให้เลื่อนดู Feed และลองอ่าน Description ของแต่ละกรุ๊ปก่อน จะได้รู้ว่า Group นั้นๆ เป็น Group ที่เปิดกว้างกับการโพสต์บทความรึเปล่า
การทำธุรกิจต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจทางด้านไอที สตาร์ทอัพ มาร์เก็ตติ้ง ไฟแน๊นซ์ ในธุรกิจควรจะมี Influencer อยู่ เพื่อให้พวกเขาได้กระจายคอนเทนท์ในธุรกิจของเราครับ
วิธี 2 วิธีที่ผมอยากจะแนะนำก็คือลองใช้ Facebook กับ Google ในการค้นหาคน/บริษัทเหล่าที่เกี่ยวข้องในสายงานของธุรกิจเรา เพราะปัจจุบันกลุ่มเป้าหมายมักติดตามและเชื่อถือใน Influencer ค่อนข้างมาก เช่น ให้ยูทูปเปอร์ยอดติดตาม 1 ล้าน รีวิวร้านอาหาร ผลตอบรับก็จะดีกว่าการให้ร้านอาหารโปรโมทตัวเองครับ
การเขียนบทความ (Guest Blogging) แล้วส่ง Backlink กลับมาหาเว็บของตัวเอง ผ่านตรงประวัติผู้เขียน ก็เป็นหนึ่งในวิธีที่น่าสนใจ
ในช่วงแรกอาจจะต้องเริ่มสร้างชื่อเสียงจากการเขียนบล็อกของตัวเองก่อน รวมไปถึงการหาโอกาสในฝึกการเขียนบทความ ให้กับเว็บที่ไม่ได้มีขนาดใหญ่มาก สิ่งที่ผมแนะนำให้ทำก็ คือ
และนี่ก็คือ 7 วิธีง่าย ๆ ในการทำ Off-page SEO ครับ และพอจะเข้าใจว่า Backlink คืออะไร กันแล้วใช่ไหมครับ การทำ SEO นั้นเป็นเรื่องไม่ง่าย กว่าจะเห็นผลใช้เวลาค่อนข้างนาน ค่อย ๆ ศึกษาเทคนิคต่าง ๆ อัพเดตความรู้เรื่อย ๆ แล้วอันดับ SEO ที่ดีก็จะได้มาแบบที่ตั้งใจครับ ลองดูครับ
บทความแนะนำ
Copyright © 2025 NB Digital Team.
All Rights Reserved.