หน้าแรก     บทความ     Marketing     วิธีใช้งาน UTM วัดผลโฆษณาของคุณให้แม่นยำมากขึ้น

วิธีใช้งาน UTM วัดผลโฆษณาของคุณให้แม่นยำมากขึ้น
Marketing

วิธีใช้งาน UTM วัดผลโฆษณาของคุณให้แม่นยำมากขึ้น

5 ปี ที่แล้ว

“จ่ายเงินโฆษณาไปตั้งเยอะ แต่ไม่รู้ว่ามีคนเข้าเว็บไซต์เท่าไหร่” คือ ปัญหาที่ผู้ลงโฆษณามักจะพบกันบ่อยๆ เพราะผู้เข้าชมเว็บไซต์สามารถมาได้จากหลากหลายช่องทาง ถ้าคุณไม่ได้ใช้ “UTM” เพื่อ… คุณก็จะไม่สามารถทราบได้ว่าผู้ชมเหล่านั้นพบเจอเว็บไซต์คุณจากช่องทางไหนกันแน่ วันนี้เราจะพาไปทำความรู้จักกับเข้า UTM นี้กันครับว่ามันคืออะไรและจะช่วยพัฒนาแผนการลงโฆษณาของคุณอย่างไรได้บ้าง


สารบัญน่ารู้

UTM คืออะไร

UTM คือ พารามิเตอร์ชนิดหนึ่งที่เราสามารถกำหนดขึ้นมาเพื่อนำไปใส่ใน URL เว็บไซต์ของเรา สำหรับตรวจสอบใน Google Analytics ว่ามีคนกดลิงค์ที่เราสร้างมานั้นกี่คน โดน URL เว็บไซต์ที่ได้ทำการเพิ่มเข้ามาด้วยการทำ UTM จะมีหน้าตาต่างจากเดิม แต่จะยังคงเข้าไปยังหน้าเว็บไซต์เดิมของคุณ ยกตัวอย่างเช่น www.nbdigital.in.th เมื่อนำมาเพิ่ม UTM อาจจะเปลี่ยนเป็นลิงค์ไปเป็นอย่างอื่นแต่ก็ยังเข้าไปที่ปลายทางเดียวกัน ยกตัวอย่างเช่น

https://nbdigital.in.th/?utm_source=Website&utm_medium=Article&utm_campaign=UTM_Article  

ถ้าหากคุณได้ลองกดลิงค์เข้าไปดูจะพบว่า แม้จะมีการกำหนดค่าตัวแปรด้านหลัง URL เพิ่มเข้ามาแต่ปลายทางก็ยังคงไปหน้าเดียวกันอยู่

แล้วทำไมเราถึงต้องเพิ่ม UTM เข้าไปในลิงค์เว็บไซต์ของเราละ?

สาเหตุที่เราควรจะเพิ่ม UTM เข้าไปในลิงค์เว็บไซต์ของเราก็เพราะเจ้า UTM นี้จะช่วยให้การวัดผลการทำโฆษณาของคุณง่ายขึ้นมาก เนื่องจากเมื่อมีคนกดเข้าไปที่ลิงค์ UTM ของคุณแล้ว Google Analytics จะเข้าไปจัดเก็บข้อมูลแยก UTM ของคุณโดยเฉพาะว่าเว็บไซต์หน้านั้นของคุณมีคนเข้ามาจากแคมเปญที่คุณเอาลิงค์ไปใส่เป็นจำนวนเท่าไหร่ดังรูปด้านล่าง

จากรูปค่าเบื้องต้นที่ Google Analytics จะได้รับคือ Google/Organic ซึ่งเป็นค่าพื้นฐาน แต่เราสามารถกำหนดค่าแบบอื่นแยกออกมาได้ด้วยการทำ UTM เช่น หากผมต้องการทำโฆษณาแบบ GDN (Banner) และต้องการทราบว่ามีคนเข้าเว็บไซต์เราจากแคมเปญนี้เท่าไหร่ ผมก็จะเข้าไปทำ UTM แล้วนำ URL หน้า Landing Page ของผมไปเติม UTM โดยกำหนดให้เป็นชื่อ “Google/CPC” แล้วนำลิงค์ที่ได้ไปใส่ในแคมเปญที่ผมสร้าง เมื่อมีคนคลิกที่ Banner ของผม Google Analytics ก็จะไปเก็บค่าแยกออกจากค่าพื้นฐานที่ Google/CPC ดังรูป ซึ่งทำให้ผมสามารถทราบได้เลยว่ามีคนเข้าหน้า Landing Page จากแคมเปญที่ผมสร้างเป็นจำนวนเท่าไหร่

วิธีใช้งาน UTM

วิธีใช้งาน UTM นั้นง่ายมากครับเพียงแค่เข้าไปที่ https://ga-dev-tools.appspot.com/campaign-url-builder/ จะปรากฏภาพดังรูปด้านล่าง

โดยในแต่ละช่องมีความหมายดังนี้ครับ

ช่องที่จำเป็นต้องระบุข้อมูลจึงจะใช้ UTM ได้ ได้แก่

  • Website URL : ช่องใส่ URL ของ Landing Page 
  • Campaign Source : ช่องสำหรับระบุแหล่งที่มาของ Traffic ที่เข้าเว็บไซต์ เช่น Facebook, Google, IG, Twitter
  • Campaign Medium : ช่องสำหรับระบุประเภทของ Source ที่ Traffic เข้ามา เช่น CPC, Banner, Boostpost
  • Campaign Name : ช่องระบุชื่อแคมเปญของคุณ เช่น October_Promotion_2019

สรุป

UTM คือ พารามิเตอร์สำหรับเติมเข้าไปใน URL หน้า Landing Page ของคุณ เพื่อให้เราสามารถวัดผลลัพธ์ในแต่ละแคมเปญได้ชัดเจนมากขึ้น เพียงแค่นำ URL ที่จะใช้ในแคมเปญไปเพิ่มพารามิเตอร์ใน https://ga-dev-tools.appspot.com/campaign-url-builder/ และกำหนดค่าต่างๆให้เรียบร้อยก็จะได้ลิงค์ตัวใหม่ที่มีพารามิเตอร์ที่คุณกำหนดไว้เพิ่มเข้ามา นำลิงค์ที่ได้ใหม่นี้ไปใส่ในแคมเปญของคุณ เพียงเท่านี้เมื่อมีคนกดคลิกเข้าเว็บไซต์จากลิงค์นั้น เราก็สามารถดูข้อมูลคนที่เข้าเว็บไซต์จากแคมเปญนั้นโดยเฉพาะได้แล้ว โดยดูได้จาก Google Analytics โดยการเข้าไปที่ Acquistion -> All Traffic -> Source/Medium แล้วเลือกหาพารามิเตอร์แคมเปญที่คุณได้กำหนดไว้ 

เป็นยังไงกันบ้างไม่ยากเลยใช่ไหมละครับ ต่อไปก็ถึงตาคุณแล้ว สร้าง UTM ให้แคมเปญของคุณ

Copyright © 2025 NB Digital Team.
All Rights Reserved.