โฆษณาเฟซบุ๊กแพงทำอย่างไรดี?

ทำไมโฆษณา Facebook ถึงแพงขึ้น?

สาเหตุที่ค่าโฆษณาของ Facebook ในหลายปีที่ผ่านมามีราคาสูงขึ้นจนน่าตกใจนั่นเพราะว่า “การเข้ามาของผู้ลงโฆษณาที่มากขึ้น” ทุกวันนี้หลายๆบริษัทชั้นนำของโลกเริ่มให้ความสนใจกับการลงโฆษณาออนไลน์กันมากขึ้นผ่านช่องทางต่างๆไม่ว่าจะเป็น Facebook, Youtube, Instagram หรือแม้แต่ Google เนื่องจากการทำตลาดออนไลน์สามารถเจาะกลุ่มเป้าหมายลูกค้าได้อย่างแม่นยำและสามารถควบคุมงบประมาณได้ยืดหยุ่นเป็นอย่างมาก

สิ่งเหล่านี้เองทำให้ค่าโฆษณาในระยะหลังเริ่มมีราคาแพงขึ้น เนื่องจากการลงโฆษณาออนไลน์ส่วนใหญ่ใช้ ”ระบบประมูล” เช่น ถ้าหากคุณต้องการลงสินค้าจำพวกกระเป๋า ระบบจะดูว่าคุณใส่งบประมาณเท่าไหร่ เป็นระยะเวลากี่วัน และในกลุ่มเป้าหมายที่คุณเลือกมีผู้ต้องการลงโฆษณาในกลุ่มเป้าหมายนี้มากน้อยขนาดไหน ถ้าหากมีคนที่ต้องการจะลงโฆษณาในกลุ่มเป้าหมายเดียวกันแต่มีงบประมาณที่มากกว่า ระบบจะแสดงโฆษณาของอีกฝ่ายแทนที่จะเป็นของคุณ ดังนั้นเมื่อมีผู้เข้าร่วมประมูลมากขึ้นเรื่อยๆ แน่นอนว่าราคาการประมูลก็จะมีการแข่งขันที่ดุเดือดมากยิ่งขึ้น ในตลาดที่มีการแข่งขันสูงมากๆ อาจต้องใช้เงินหลักร้อยต่อการแสดงโฆษณาหนึ่งครั้งกันเลยทีเดียว

เนื่องจาก Facebook มีต้นทุกการเข้าถึงที่ต่ำมาก เพียงแค่คุณมีบัญชีผู้ใช้ของ Facebook (ซึ่งสมัครไม่ยากเลย) แล้วกดสร้างเพจ ใส่รายละเอียดสักเล็กน้อย เพียงเท่านี้คุณก็จะกลายเป็นแอดมินของเพจ เพจหนึ่งก่อนที่คุณจะได้ทันตั้งตัวเสียอีกยกตัวอย่างเช่น หากวันนี้เราต้องการขายกระเป๋า ต้นทุนในการเปิดเพจก็ไม่มี ค่าโฆษณาอย่างน้อยต่อวันก็ถูกแสนถูก นั้นเองเป็นสาเหตุที่ทำให้คนแห่เข้ามาในตลาดนี้กันอย่างล้นหลาม

แล้วเราจะทำอย่างไรดี?

วันนี้ผมอยากจะมาแนะนำอีกหนึ่งช่องทางในการเพิ่มกลุ่มลูกค้านั่นก็คือ “Google” การลงโฆษณาผ่าน Google ค่อนข้างจะมีความซับซ้อนมากกว่าแต่จะมีข้อดีคือ ผู้ที่จะเห็นเว็บไซต์ของคุณได้นั้นจะต้องค้นหาผ่าน “Keyword” ที่เกี่ยวข้องกับสินค้าหรือบริการของคุณ

เราใช้ Facebook ลงโฆษณาของ Google ได้หรือไม่

คำตอบ คือ ได้ครับเพียงแต่อาจจะมีข้อเสียอยู่บ้าง เช่น 

1. การขึ้นอันดับดีๆอาจจะยากกว่าสักเล็กน้อย เนื่องจาก Google ให้ความสำคัญกับเว็บไซต์ที่สร้างขึ้นโดยเฉพาะมากกว่าการนำ URL ของ Facebook มาทำโฆษณาเลย (ยกเว้นบางกรณีที่ผมจะยกมาพูดในภายหลังนะครับ)   
2. จากข้อแรกด้วยความที่โฆษณาของคุณอยู่ในอันดับที่อาจจะไม่ดีเท่าเว็บไซต์ทั่วไป นั่นจะทำให้การลงโฆษณาของคุณมีราคาสูงขึ้น เพราะ Google มีระบบที่เรียกว่า Quality Score คือ ถ้าเว็บไซต์ของคุณถูกฌหลดขึ้นมาแต่ไม่เกิดการคลิกมากๆเข้า Google จะประเมิณว่าเว็บไซต์ของคุณไม่ได้ส่งผลดีต่อ User มากนัก
3. การวัดผลทำได้ยากกว่า เนื่องจากการลงโฆษณาด้วย Facebook เพจของคุณจะไม่สามารถติดโค้ดสำหรับวัดผู้เข้าชมว่ามาจากการลงโฆษณาเท่าไหร่ ซึ่งจะส่งผลต่อการวัดผลและวางงบการตลาดสำหรับการลงโฆษณาในครั้งถัดไป 

สรุป

การลงโฆษณาผ่านทาง Facebook มีต้นทุนที่ถูกกว่าแต่ข้อเสีย คือ มีผู้ลงโฆษณาเป็นจำนวนมาก เนื่องจากมีต้นทุนในการเข้าถึงที่ต่ำ ทำให้การลงโฆษณามีแนวโน้มที่จะสูงขึ้นเรื่อยๆ 

ผมจึงอยากแนะนำแนวทางใหม่ในการลงโฆษณานั่นก็คือ Google เนื่องจากแม้ว่าการเข้ามาในตลาดนี้อาจจะมีความซับซ้อนไปบ้างในช่วงแรกแต่จะมีข้อดี คือ คนที่เข้าชมเว็บไซต์ของเราจะเป็นคนที่สนใจในสินค้าและบริการของเราอยู่แล้วในระดับหนึ่ง แต่ถ้าให้ผมแนะนำคุณควรจะเพิ่มการลงโฆษณาทั้งสองช่องทางอยู่ในการวางแผนงบการตลาดของคุณ เนื่องจากทั้ง Google และ Facebook ต่างก็มีข้อดีข้อเสียที่แตกต่างกันไป

สุดท้ายนี้ขอให้ทุกคนโชคดี เฮงๆ กับทุกแคมเปญที่ทำโฆษณากันนะครับ หรือถ้ามีข้อสงสัยตรงไหนสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ Fanpage ของเรา หรือแอดไลน์เข้ามาที่ @nbdigital พูดคุยกันได้เสมอนะครับ 

หรือถ้าอยากจ้างเราลงโฆษณาดูแลเพจ ทำSEO ก็ติดต่อเข้ามาได้ตลอดนะครับ555+ รับรองราคามิตรภาพแน่นอนครับผม