หน้าแรก     บทความ     Marketing     เทคนิคสร้าง Brand บน Online Marketing อย่างไรให้ปังแถมยังกำไรงาม

เทคนิคสร้าง Brand บน Online Marketing อย่างไรให้ปังแถมยังกำไรงาม
Marketing

เทคนิคสร้าง Brand บน Online Marketing อย่างไรให้ปังแถมยังกำไรงาม

4 ปี ที่แล้ว

สมัยนี้ใคร ๆ ก็หันมาเปิดร้านค้าออนไลน์กันจริงไหมครับ เพราะการใช้พื้นที่ออนไลน์ มีข้อดีและจุดเด่นที่น่าสนใจกว่าไม่ว่าจะเป็นเรื่องความง่ายและความรวดเร็ว อีกทั้งยังมีต้นทุนที่ต่ำ สามารถเข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้ทั่วประเทศ แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังมีข้อเสียนะครับ เพราะ ร้านค้าแบบ Ecommerce มี มีคู่แข่งที่เยอะมาก ๆ เพราะด้วยความง่ายในการเริ่มต้นสร้างนี่แหล่ะครับ อาจทำให้เจอปัญหาขายสินค้าที่ตัดราคา ดังนั้นนะครับ การจะ สร้าง Brand บน Online Marketing อย่างไรให้ปัง จะต้องคำนึงถึงเรื่องของคุณค่ามากขึ้นอย่างไรล่ะครับ แล้วจะสร้างคุณค่าของแบรนด์ (Brand Value) ได้จากอะไรบ้าง ลองมาดู 5 หัวข้อต่อไปนี้ที่ผมจะมาอธิบายให้เจ้าของธุรกิจเข้าใจการสร้างคุณค่าของแบรนด์ (Brand Value) กันครับ


สารบัญน่ารู้

การสร้างแบรนด์สำหรับ Ecommerce เริ่มต้นอย่างไร


ก่อนจะเริ่มต้นกำหนดกลยุทธ์ในการสร้างแบรนด์ ควรมีการสร้างความเข้าใจให้ตรงกันภายในทีม เพื่อให้ทีมมองเห็นภาพรวมที่ชัดเจน โดยผมจะแนะนำให้ลองนำไปใช้กันนะครับ 

  • Objective หลักของการเปิด Online Shop ของธุรกิจคืออะไร ? 
  • Produce สามารถช่วยแก้ปัญหาให้กับ Customer อย่างไรได้บ้าง ? 
  • ลูกค้าปัจจุบันของคุณคิดอย่างไรกับธุรกิจของคุณ ?


หากแบรนด์มีช่องทางการสื่อสารบนโลกออนไลน์อยู่แล้ว เช่น Facebook, LINE, Instagram, Youtube สามารถลองสอบถามผู้ที่ติดตามแบรนด์ตรง ๆ เลยว่า มีความเห็นอย่างไรกับแบรนด์และสินค้าของแบรนด์บ้าง จุดเด่นหรือข้อด้อยอะไรบ้าง และควรปรับปรุงในทิศทางใดครับ เพราะความเห็นของกลุ่มลูกค้าถือว่าเป็นเสียงสำคัญในการสร้างคุณค่าของแบรนด์ 


นอกจากนี้ผมอยากจะแนะนำการเพิ่มมูลค่าผ่านทางการใช้ Social Media เล็ก  ๆ น้อย ๆ ให้ลองนำไปทำตามกันดู 

  • สร้างรูปโปรไฟล์หรือโลโก้ ที่เป็นตัวแทนของแบรนด์
  • ใช้รูปโปรไฟล์และโลโก้เดียวกันกับทุกบน Platform เพื่อให้เกิดการจดจำแบรนด์ 
  • ใช้ Mood & Tone เดียวกันทุก ๆ Platform โดยการกำหนดโทนสี สไตล์ รูปแบบ ภาษาที่ใช้ ให้ไปในทิศทางเดียวกัน  

การหาจุดเด่นให้ Brand 


การสร้างเอกลักษณ์เฉพาะตัวให้แบรนด์เป็นสิ่งที่ห้ามพลาดเลยนะครับ เพราะเป็นสิ่งที่จะมีความแตกต่างให้กลุ่มลูกค้าแยกแบรนด์สินค้าของเราออกจากแบรนด์ของคู่แข่ง การที่แบรนด์หรือสินค้านั้นโดดเด่นไม่เหมือนใคร จะช่วยให้ลูกค้าเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ได้ง่ายขึ้น 

โดยเอกลักษณ์ที่สร้างสามารถเป็นการบอกเล่าเรื่องราว ที่มาที่ไปของแบรนด์ หรือปรัชญาในการทำธุรกิจ แรงบันดาลใจในการดำเนินธุรกิจและขั้นตอนการผลิตสินค้าก็ได้นะครับ ยกตัวอย่างแบรนด์ที่มีเรื่องราวน่าสนใจอย่าง Everyday Karmakamet 

ณัทธรเล่าให้เราฟังว่า Karmakamet มีที่มาจากคำว่า "Karma" ซึ่งหมายถึงโชคชะตา และคำว่า "Kamet" ซึ่งเป็นชื่อของภูเขาในแถบหิมาลัย การผสานกันระหว่างคำสองคำนี้นอกจากจะเป็นการเพิ่มกลิ่นอายความน่าหลงใหลให้กับแบรนด์แล้ว ยังเป็นการเชิญชวนให้ลูกค้าได้จินตนาการต่ออีกว่า "กลิ่นหอมกลิ่นไหนที่จะพาเราย้อนกลับสู่ความทรงจำในวันเก่าๆ ที่ไม่เคยลืมเลือนได้ลง"


"จุดเริ่มต้นและแรงบันดาลใจในการทำร้านเครื่องหอมของผม เกิดจากความเบื่อหน่ายโลกแห่งความวุ่นวาย ผมเคยทำงานที่ต้องแข่งกับเวลา งานที่ต้องสนองความต้องการของคนอื่นมากๆ และอะไรที่เกี่ยวข้องกับโลกทุนนิยมเยอะๆ (ณัทธรเคยทำงานเป็นสไตล์ลิสต์ และนักออกแบบตกแต่งภายใน) พอวันหนึ่งได้เจอกับหุ้นส่วนที่เรียนพวกเครื่องหอมมา เขาทำให้ผมรู้สึกว่าเรื่องของกลิ่นมีเสน่ห์และน่าสนใจ กลิ่นหอมเป็นทั้งศาสตร์และศิลป์ มันมีรูปธรรมของมัน แต่ในขณะเดียวกัน ก็มีความเป็นนามธรรมซ่อนอยู่"


"ผมเชื่อว่าพวกเราทุกคนต่างมี "Secret World" หรือโลกเร้นลับเฉพาะของตัวเอง เป็นช่วงเวลาพิเศษที่เราสามารถดื่มด่ำความสุขจากคืนวันเก่าๆ ได้อย่างเต็มที่ โดยมีความหอมของกลิ่นที่คุณชื่นชอบเป็นสิ่งที่ช่วยพาคุณกลับสู่โลกใบนั้น” ณัทธรเล่าถึงที่มาและคอนเซ็ปท์ของ Karmakamet   

ที่มาจากเว็บไซต์ TCDC (Thailand Creative & Design Center)


ผมมีเคล็ดลับเพิ่มจุดเด่นที่เหมาะกับธุรกิจประเภทสินค้า Handmade นะครับ 

  • สินค้าแฮนเมดช่วยให้เกิดความหลากหลาย ไม่ซ้ำซากจำเจเมื่อเทียบกันกับผลิตภัณฑ์ที่อยู่ในอุตสาหกรรมเดียวกัน 
  • ผู้ผลิตแฮนเมดส่วนใหญ่มักจะรู้สึกสนุกไปกับการสร้างผลิตภัณฑ์ 
  • สินค้าแฮนเมดสามารถสร้างเอกลักษณ์ว่ามีชิ้นเดียวในโลกได้ 
  • สินค้าแฮนเมดมีจำนวนจำกัด ซึ่งเมื่อมีความต้องการซื้อสูงแต่สินค้ามีจำนวนจำกัด ก็จะยิ่งทำให้สินค้าดูดีมีมูลค่าเพิ่มขึ้นโดยอัตโนมัติ 
  • สินค้าแฮนเมดในหลาย ๆ ครั้งมักเป็นคนที่รักษ์โลก เนื่องจากบางผลิตภัณฑ์ทำมาจากธรรมชาติหรือเป็นการรีไซเคิล 
  • สินค้าแฮนเมดส่วนใหญ่แล้วเกิดขึ้นมาจากความรักในการผลิตชิ้นงานนั้นขึ้นมา และนี่คือตัวอย่างการสร้างเอกลักษณ์ให้โดดเด่นเหนือคู่แข่งที่มีอยู่กลาดเกลื่อนในท้องตลาด จงใช้จุดเด่นในการเล่าเรื่องราวของแบรนด์คุณ
  • เน้นการทำ Modern Marketing ที่ตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าสมัยใหม่

คุณภาพของสินค้าเป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้าม


หากสินค้ามีคุณภาพดี แถมยังมีการตลาดที่ดี สินค้าก็จะยิ่งเติบโตได้ดีขึ้นเรื่อย ๆ ดังนั้นเน้นการผลิตสินค้าให้มีคุณภาพดีนั้น จะช่วยสร้าง Brand Loyalty อย่างยาวนาน 

ซึ่งผลเสียจากการไม่ใส่ใจกับคุณภาพของสินค้ามีมากมายนะครับ เช่น อาจจะขายสินค้าได้แค่ครั้งเดียว หรืออาจจะไม่กลับมาอุดหนุนสินค้าอีก ถ้าแย่มาก ๆ ทางลูกค้าก็จะเริ่มวิจารณ์สินค้าบนโลกออนไลน์ โดยตัวอย่างของแบรนด์ที่กล้าการันตีคุณภาพของสินค้าในบทความนี้คือ Casper 

ที่นอน Casper เน้นตอกย้ำการใช้กลยุทธ์การผลิตสินค้าที่มีคุณภาพสูง ถือว่าเป็นจุดแข็งที่สุดของแบรนด์นี้ โดยการันตีคุณภาพด้วยข้อเสนอสุดพิเศษ คือ 

  • สามารถทดสอบการนอนได้เป็นจำนวน 100 คืน 
  • หากใน 100 คืนนี้ไม่พอใจกับสินค้า สามารถติดต่อเพื่อขอรับเงินคืนเต็มจำนวนไปได้เลย 
  • แถมมีบริการส่งทั้งไปและกลับฟรีอีกด้วย 


และนี่คือกลยุทธ์ที่ Casper ใช้สร้างความน่าเชื่อถือให้กับแบรนด์สินค้า เพื่อให้ผู้บริโภคตัดสินใจได้ง่ายขึ้น 


สำหรับธุรกิจที่เน้นเรื่องของคุณภาพของสินค้าสามารถดูกลยุทธ์ได้ดังนี้ 

  • แสดงถึงแหล่งผลิตสินค้าที่มีคุณภาพได้มาตรฐาน 
  • แสดงถึงวัตถุดิบที่ใช้ในการผลิตสินค้า 
  • ถ้าเป็นผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวกับอาหาร มันเป็นวัตถุดิบธรรมชาติไร้สารพิษตกค้างหรือไม่


จุดที่ควรระวังที่ผมอยากแนะนำนะครับ คือ อย่าสับสนระหว่างสินค้าที่มีคุณภาพสูง กับสินค้าหรูหราราคาแพง เพราะสินค้าที่หรูหราราคาแพง อาจมีได้มีคุณภาพที่แตกต่างไปจากสินค้าคุณภาพสูงที่โนเนม ดังนั้นโฟกัสว่าอยากจะให้ธุรกิจคุณเป็นสินค้าที่มีคุณภาพสูงหรือเป็นสินค้าที่หรูหรามากกว่ากัน

สร้างประสบการณ์ที่แตกต่างให้ลูกค้า


การสร้างความประทับใจให้กับลูกค้า ถือเป็นการสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้านะครับ ยกตัวอย่างเช่น ร้านค้าออนไลน์ของคุณเคสโทรศัพท์ สำหรับกลุ่มวัยรุ่นได้มีการส่งสินค้าไปยังลูกค้าด้วยการทำแพคเกจจิ้งที่สวยงามด้วยกระดาษอย่างดี พร้อมกับมีข้อความสั้น ๆ ที่เขียนด้วยลายมือ ซึ่งประสบการณ์ต่าง ๆ เหล่านี้ เหล่าบรรดาลูกค้าของคุณก็จะได้รู้สึกได้ทันทีเลยว่า มันแตกต่างจากร้านค้าทั่วไป ที่เพียงซื้อมาขายไปแล้วก็จบกัน ไม่ได้ใส่ใจกับลูกค้าเป็นรายบุคคลแบบนี้ครับ


ยกตัวอย่างแบรนด์ คือ The Body Shop ซึ่งเป็นแบรนด์เครื่องสำอางผลิตภัณฑ์ดูแลผิวและน้ำหอมสำหรับผู้หญิง ที่ชอบความแตกต่างด้วยกลิ่นที่หลากหลายในสินค้า นอกจากแพคเกจจิ้งที่ทั้งดูหรูและสีสันจัดจ้าน แล้วยังมอบประสบการณ์ที่แตกต่างไปจากการซื้อผลิตภัณฑ์ดูแลผิวและน้ำหอมทั่ว ๆ ไป ก็คือ ในแต่ละเดือน จะมีแพคเกจจิงแบบไหน และมีกลิ่นที่เปลี่ยนไปอย่างไร ทำให้สินค้าของแบรนด์กลายที่ครองใจผู้หญิงทั่วโลก โดยเฉพาะในกลุ่มวัยรุ่นและวัยทำงาน

การตอบแทนลูกค้าหลังการขาย


10 วิธีที่สามารถแสดงความขอบคุณลูกค้าของคุณที่มีต่อแบรนด์ ดังนี้ 

  • เขียนจดหมายขอบคุณ 
  • ช่วยให้ลูกค้าได้เรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ ที่เกี่ยวข้องกันกับสินค้า
  • เชิญลูกค้าร่วมรับประทานอาหารมื้อพิเศษ 
  • มอบสิทธิพิเศษสำหรับแฟน ๆ ที่ติดตามบนโลกโซเชียล 
  • ทำแคมเปญมอบเครื่องดื่มให้ฟรี โดยสามารถรับได้ฟรีที่ร้านกาแฟที่มีสาขาอยู่ทั่วโลก 
  • การโทรหาเพื่อขอบคุณแล้วถ่ายทอดสดบน Facebook Live เพื่อแสดงให้ลูกค้าได้เห็นว่าพวกเขามีความสำคัญต่อแบรนด์มากแค่ไหร 
  • อัพเกรดได้ฟรีสำหรับลูกค้าชั้นดี โดยคุณจะสามารถพบเห็นได้จากสายการบินต่าง ๆ ที่มีทั้งอัพเกรดเป็นคลาสที่สูงขึ้นได้ฟรีเมื่อสะสมไมล์ได้ครบตามกำหนด 
  • ส่งบัตรเชิญเข้าร่วมงานเลี้ยงสังสรรค์ประจำปีของบริษัท เพื่อให้ลูกค้าได้สัมผัสกับประสบการณ์ที่สุดพิเศษ 
  • การหยิบยกคำพูดของลูกค้าขึ้นมาแสดงหน้าหลักของโซเชียลเน็ตเวิร์กของแบรนด์ ส่งบัตรกำนัลของขวัญให้กับลูกค้าที่พิเศษแทนการขอบคุณ อาจเป็นบัตรแลกของกำนัลของบริษัทในเครือ

เป็นอย่างไรบ้างครับกับการ สร้าง Brand บน Online Marketing ให้ปัง ผ่านการสร้าง Value ของแบรนด์ ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของการสร้างเรื่องราวให้แบรนด์ การเน้นเรื่องของคุณภาพสินค้า การสร้างประสบการณ์ที่ดีให้ลูกค้า จนถึงการขอบคุณลูกค้าหลังการซื้อสินค้า ทั้งหมดนี่จะช่วยให้แบรนด์ธุรกิจของเรานั้นแตกต่างจากคู่แข่งบนโลกออนไลน์ ส่งผลให้มีโอกาสที่ทางลูกค้าจะตัดสินใจซื้อสินค้ามากขึ้น ยอดขายและกำไรก็จะเพิ่มขึ้นครับ

Copyright © 2025 NB Digital Team.
All Rights Reserved.